วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

>> Work Hard Play Hard แบบกวิน นวลแข


การที่ประเทศเล็กๆ อย่างนิวซีแลนด์สามารถแข่งขันกับประเทศใหญ่ๆ ซึ่งมีพร้อมทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคลได้ ก็เพราะตัวประชากรเองมีการพัฒนาขีดความสามารถของตนจนกลายเป็นผลิตผลที่มีประสิทธิภาพพร้อมนำออกไปสร้างผลประโยชน์ให้แก่ประเทศ และการที่คุณกวิน นวลแขซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง Managing Director ของโรงแรม Maduzi เคยมีโอกาสเดินทางไปศึกษาและใช้ชีวิตอยู่ที่นิวซีแลนด์ จึงซึมซับเอาวัฒนธรรมแห่งการพัฒนาตนเองกลับมาประยุกต์ใช้กับการทำงานที่ประเทศไทย

คุณกวินกล่าวว่า การพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอยู่เสมอๆ คือสัญชาตญาณเบื้องต้นในการเอาตัวรอดของชาวนิวซีแลนด์ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้มีค่านิยมในการใช้ชีวิตแบบหรูหราฟุ่มเฟือยแต่อย่างใด และวิธีคิดแบบ Down to Earth ของชาวนิวซีแลนด์นั้นนับเป็นอีกสิ่งที่ปลูกฝังอยู่ในความคิดของคุณกวินด้วย นอกจากนี้การได้ทำกิจกรรมอะไรแปลกๆ อย่างเล่นเรือใบ ปีนภูเขาน้ำแข็ง เล่นสกี หรือเล่นรักบี้ ก็มีส่วนช่วยเสริมบุคลิกภาพด้วย

สิ่งที่เห็นเด่นชัดคือช่วยให้กล้าคิดนอกกรอบ ไม่ทำเหมือนคนอื่น และต้องทำให้ดีกว่า อย่างการเปิดโรงแรม Maduzi ที่กรุงเทพฯ โดยคอนเซ็ปต์หลักของโรงแรมนี้คือสร้างให้เป็นที่พักอาศัยแบบปิด เงียบสงบ และมีความเป็นส่วนตัวสูง ซึ่งแขกส่วนใหญ่ที่มาใช้บริการจะเป็นกลุ่มคนที่ไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขามาพัก แน่นอนว่าในช่วงแรกของการเปิดโรงแรมย่อมต้องมีปัญหาหนักใจ เช่น ไม่มีใครรู้จัก ไม่มีแขกเข้าพัก และเสียงบ่นจากคนรอบข้าง

วิธีแก้ปัญหาในตอนนั้นคือความเชื่อมั่นในสิ่งที่ตนทำว่าจะสามารถผ่านพ้นไปได้ และเมื่อสามารถก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านั้นมาได้หนึ่งขั้น ก็ต้องเตรียมปรับกลยุทธ์ในการรับมือกับปัญหาลำดับต่อไป เช่น แขกที่มาเข้าพักเริ่มเรียกร้องบริการต่างๆ มากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งปกติสำหรับการทำธุรกิจในด้านนี้ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีความยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ต่างๆ และที่สำคัญที่สุดคือต้องเพิ่มศักยภาพให้แก่ทีมงานหรือส่งเสริมให้พนักงานพัฒนาความสามารถของตนเอง อย่างเช่นจัดตั้ง Book Club ขึ้นมา โดยจะแจกหนังสือให้อ่านแล้วมานั่งถกกันว่าหนังสือเล่มนี้พูดถึงอะไร ดีอย่างไร และสามารถนำไปใช้ได้อย่างไร พอทุกคนอ่านมากก็มีความรู้มาก สิ่งที่ตามมาคือผลตอบแทนด้านเงินเดือนที่สูงขึ้นตามศักยภาพในการทำงานซึ่งเรียนรู้มาจากการอ่านนั่นเอง และเนื่องจากโครงสร้างของโลกทุกวันนี้บังคับให้คนทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง หลักปฏิบัติของคนส่วนมากจึงทุ่มเทแรงกายแรงใจทั้งหมดให้กับการทำงานเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่า
แต่สำหรับคุณกวิน การสร้างอนาคตที่ดีต้องมาพร้อมกับการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขควบคู่กันไปในช่วงเวลาปัจจุบันด้วย นี่จึงเป็นที่มาของสไตล์การใช้ชีวิตแบบ Work Hard Play Hard ของ Managing Director คนนี้ คือเวลาทำงานก็ต้องเอาจริงเอาจัง แต่เมื่อถึงเวลาที่ควรจะพักก็ต้องหยุด เพื่อหาความสุขให้แก่ตนเองและครอบครัวอย่างเต็มที่ ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมคลายเครียดนั้นก็คือการออกไปกินอาหารอร่อยๆ นั่นเอง
และการจะบอกว่าอาหารอร่อยหรือไม่ คุณกวินบอกว่าต้องเข้าใจถึงบุคลิกที่แตกต่างของอาหารแต่ละประเทศก่อน เช่น อาหารญี่ปุ่นจะเน้นความสดให้รสธรรมชาติ อาหารฝรั่งเศสก็เน้นรสธรรมชาติของวัตถุดิบ ไม่ใช้เครื่องปรุงมาก อาหารจีน ไทย อินเดียต้องรสจัดจึงจะถูกปาก และสุดท้ายคืออาหารนิวซีแลนด์ที่ให้ความสำคัญกับความสดมากๆ คือผักต้องเจริญเติบโตขึ้นมาจากดินธรรมชาติแล้วเก็บมาปรุงทันที ไม่มีค้างในสต๊อก

ส่วนความสุขในการกินนั้นต้องยึดตามหลักการให้ดาวแบบ Michelin Guide คือดาวที่หนึ่งแปลว่าต้องอร่อยสม่ำเสมอ ดาวที่สองคือบรรยากาศดี สถานที่สวยงาม บริกรรู้จังหวะในการเสิร์ฟ และดาวที่สามหมายถึงต้องมีอะไรแปลกกว่าที่อื่น บริการดีเหนือระดับ ไวน์พิเศษ หรือสลักชื่อร้านที่ช้อนส้อม ซึ่ง Happy Meal ของคุณกวินนั้นขอแค่ดาวที่หนึ่งก็เพียงพอแล้ว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น